วันเสาร์ที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2557

แบบฝึกหัดบทที่4

แบบฝึกหัดบทที่ 4

1.      ให้นิสิตยกตัวอย่างอุปกรณ์ที่ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศตามหัวข้อต่อไปนี้ อย่างน้อยหัวข้อละ 3 ชนิด แล้วแลกเปลี่ยนกันตรวจสอบกับเพื่อน
1)      การบันทึกและจัดเก็บข้อมูล      
                CD / แฟลตไดร์ฟ / ฮาร์ดดิสค์      
2)      การแสดงผล
                จอมอนิเตอร์ / โปรเจ๊กเตอร์ / เครื่องพิมพ์
3)      การประมวลผล        
                 CPU / RAM / ROM       
4)      การสื่อสารและเครือข่าย
                              โทรทัศน์ / วิทยุ / เครือข่ายดาวเทียม           
    
2.       ให้นิสิตนำตัวเลขในช่องขวา มาเติมหน้าข้อความในช่องซ้ายที่มีความที่สัมพันธ์กัน

…1… ซอฟต์แวร์ประยุกต์
1. ส่วนใหญ่ใช้ทำหน้าที่คำนวณ ประมวลผลข้อมูล
…3… Information Technology
2. e-Revenue
…10… คอมพิวเตอร์ในยุคประมวลผลข้อมูล
3. เทคโนโลยีต่าง ๆ ที่นำมาประยุกต์ใช้ในการดำเนินการเกี่ยวกับสารสนเทศ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ความถูกต้องแม่นยำ และความรวดเร็วต่อการนำไปใช้
…4…เทคโนโลยีสารสนเทศ ประกอบด้วย
4.มีองค์ประกอบพื้นฐาน 3 ส่วน ได้แก่ Sender Medium และDecoder
…8…ช่วยเพิ่มผลผลิต เพิ่มต้นทุน และเพิ่มประสิทธิภาพในการททำงาน
5. การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในการรับ-ส่งเอกสารจากหน่วยงานหนึ่งไปยังอีกหน่วยงานหนึ่งโดยส่งผ่านเครือข่าย
…7… ซอฟต์แวร์ระบบ
6. เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ เทคโนโลยีการสื่อสารโทรคมนาคม และเทคโนโลยีอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง
…9… การนำเสนอบทเรียนในรูปมัลติมีเดีย ที่ผู้เรียนสามารถเรียนรู้ด้วยตัวเองได้ตามระดับความสามารถ
7. โปรแกรมที่ทำหน้าที่ใช้ควบคุมอุปกรณ์ต่างๆ ภายในระบบคอมพิวเตอร์
…5… EDI
8. โปรแกรมระบบห้องสมุดอัตโนมัติ จัดเป็นซอฟต์แวร์ประเภท
…6… การสื่อสารโทรคมนาคม
9. CAI
…2…บริการชำระภาษีออนไลน์
10. ลักษณะสำคัญของเทคโนโลยีสารสนเทศ

วันศุกร์ที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2557

แบบฝึกหัดบทที่3

1. ข้อใดเป็นความหมายที่ถูกต้องที่สุดของการรู้สารสนเทศ
ง. ความสามารถของบุคคลในการเข้าถึง ประเมิน และใช้งานสารสนเทศ
2. จากกระบวนการของการรู้สารสนเทศ ทั้ง 5 ประการ ประการไหนสำคัญที่สุด
ง. ความสามารถในการใช้และการสื่อสารสารสนเทศอย่างมีประสิทธิภาพ
3. ข้อใดไม่ใช่ลักษณะของผู้รู้สารสนเทศ
ค. ชอบใช้คอมพิวเตอร์ในการเล่นเกม
4.ข้อใดไม่ใช่ความสำคัญของการรู้สารสนเทศ
ค.  สารสนเทศมีการเพิ่มปริมาณอย่างรวดเร็ว จนยากที่จะเข้าถึง
5. ข้อใดเป็นการเรียงลำดับขั้นตอนของกระบวนการเรียนรู้สารสนเทศที่ถูกต้อง
1. ความสามารถในการประมวลสารสนเทศ
2.
 ความสามารถในการประเมินสารสนเทศ
3.
 ความสามารถในการใช้และการสื่อสารสนเทศอย่างมีประสิทธิภาพ
4.
 ความสามารถในการค้นหาสารสนเทศ
5.
 ความสามารถในการตระหนักว่าเมื่อใดจึงจะต้องการสารสนเทศ

ค. 5-4-1-2-3    

วันพุธที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2557

แบบฝึกหัดบทที่1

แบบฝึกหัดบทที่ 1
1.ข้อมูลหมายถึง
ข่าวสาร เอกสาร ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับบุคคล สิ่งของหรือเหตุการณ์ที่มีอยู่ในรูปของตัวเลข ภาษา
2.ข้อมูลปฐมภูมิคือ
สารสนเทศที่ได้มาจากต้นแหล่งโดยตรง เป็นสารสนเทศทางวิชาการ ผลของการศึกษาค้นคว้า วิจัย รายงาน การค้นพบทฤษฎีใหม่ ๆ เพื่อใช้เป็นแนวทางในการศึกษาค้นคว้าเพิ่มเติม
ยกตัวอย่าง
ประกอบวารสาร รายงานการวิจัย รายงานการประชุมและสัมมนาวิชาการ สิทธิบัตร เอกสารมาตรฐานต่าง ๆ ต้นฉบับตัวเขียน จดหมายเหตุ วิทยานิพนธ์
3.ข้อมูลทุติยภูมิคือ
สารสนเทศที่มีการรวบรวม เรียบเรียงขึ้นใหม่จากแหล่งสารสนเทศปฐมภูมิ มักจะอยู่ในรูปแบบการสรุป ย่อเรื่อง จัดหมวดหมู่ ทำดรรชนีและสาระสังเขป เพื่อประโยชน์ในการเข้าถึงและสามารถใช้ข้อมูลได้อย่างสะดวกรวดเร็ว
ยกตัวอย่างประกอบ
 สื่ออ้างอิงประเภทต่าง ๆ วารสารที่มีการสรุปย่อและตีความ รวมถึงหนังสือ ตำรา ที่รวบรวมเนื้อหาวิชาการในการเรียนการสอน สารานุกรม พจนานุกรม รายงานสถิติต่าง ๆ ดรรชนีและสาระสังเขป
4.สารสนเทศหมายถึง
ข้อมูล ข่าวสาร ที่ได้มีการจัดการไม่ว่าจะเป็นการคิดคำนวณ ประมวลผลเพื่อนำมาใช้ประโยชน์ตามวัตถุประสงค์ ได้มีการคัดเลือกสรรและนำไปใช้ให้ทันต่อความต้องการในการใช้งาน และทันเวลา
5.จงอธิบายประเภทของสารสนเทศ
การจำแนกประเภทของสารสนเทศได้มีการจำแนกออกเป็น ตามแหล่งสารสนเทศและตามสื่อที่จัดเก็บ
สารสนเทศจำแนกตามแหล่งสารสนเทศ
          - แหล่งปฐมภูมิ (Primary Source)
          - แหล่งทุติยภูมิ (Secondary Source)
          - แหล่งตติยภูมิ (Tertiary Source)
สารสนเทศจำแนกตามสื่อที่จัดเก็บ
          - กระดาษ เป็นสื่อที่ใช้บันทึกข้อมูล สารสนเทศ ที่ใช้ง่ายต่อการบันทึก
          - วัสดุย่อส่วน เป็นสื่อที่ถูกสำเนาย่อส่วนลงบนแผ่นฟิล์มชนิดต่างๆทั้งที่เป็นม้วนและเป็นแผ่น
            - สื่ออิเล็กทรอนิกหรือสื่อแม่เหล็ก เป็นวัสดุสังเคราะห์เคลือบด้วยสารแม่เหล็ก
            - สื่อแสงหรือสื่อออปติก (Optical Media)
6.ข้อเท็จจริงของสิ่งต่างๆที่อาจเป็นตัวเลขข้อความรูปภาพเสียงคือ
ข้อมูล
7.ข้อมูลที่ผ่านการประมวลผลเป็น
สารสนเทศ
8.ส่วนสูงของเพื่อนที่ถามจากเพื่อนแต่ละคนเป็น
ข้อมูล
9.ผลของการลงทะเบียนเป็น
 สารสนเทศ
10.กราฟแสดงจำนวนนิสิตในห้องเรียนวิชาวิชาการจัดการสารสนเทศยุคใหม่ในชีวิตประจำวันSectionวันอังคารเป็น
          สารสนเทศ

วันอังคารที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2557

Data mining



Data mining คือ
การทำเหมืองข้อมูล หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า การค้นหาความรู้ที่อยู่ในฐานข้อมูล เป็นเทคนิคในการค้นหารูปแบบ แนวทาง และความสัมพันธ์ที่ถูกซ่อนอยู่ในชุดข้อมูลจำนวนมาก โดยอาศัยหลักสถิติ การรู้จำและหลักคณิตศาสตร์ และเป็นศาสตร์แขนงหนึ่งทาง AI
AI ย่อมาจากคำว่า ปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence) หรือ เอไอ (AI) หมายถึงความฉลาดเทียมที่สร้างขึ้นให้กับสิ่งที่ไม่มีชีวิต ปัญญาประดิษฐ์เป็นสาขาหนึ่งในด้านวิทยาการคอมพิวเตอร์ และวิศวกรรมเป็นหลัก แต่ยังรวมถึงศาสตร์ในด้านอื่นๆอย่างจิตวิทยา ปรัชญา หรือชีววิทยา ซึ่งสาขาปัญญาประดิษฐ์เป็นการเรียนรู้เกี่ยวกับกระบวนการการคิด การกระทำ การให้เหตุผล การปรับตัว หรือการอนุมาน และการทำงานของสมอง
ทำไมต้อง data mining
ในสภาวะเศรษฐกิจปัจจุบันที่มีความผันผวนและมีการแข่งขันสูง การพยายามรักษาฐานลูกค้าเก่าและเพิ่มกลุ่มลูกค้าใหม่เป็นสิ่งที่ทุกธุรกิจขาดไม่ได้ กลยุทธ์ที่นิยมนำมาใช้คือการทำ CRM (Customer Relationship Management) เป็นวิธีการบริหารความสัมพันธ์ระหว่างองค์กรกับลูกค้า โดยเริ่มจากการเก็บข้อมูลประวัติลูกค้า ทั้งประวัติส่วนบุคคลและประวัติการซื้อสินค้า (transaction) จากนั้นทำการวิเคราะห์พฤติกรรมการบริโภคสินค้าของลูกค้า ทำการจัดกลุ่มและประเมินว่าลูกค้าแต่ละกลุ่มมีผลต่อกำไรมากน้อยเพียงใด พัฒนาคุณภาพสินค้าและบริการ มีการเสนอโปรโมชันสินค้าและบริการที่ตรงใจ เพื่อตอบโจทย์ของลูกค้าให้ตรงใจมากที่สุด โดยเทคนิคดาต้าไมน์นิ่งได้เข้ามามีบทบาทสำคัญสนับสนุนงานด้าน CRM โดยใช้ในการหาความสัมพันธ์การซื้อสินค้าของลูกค้า เพื่อนำไปวิเคราะห์และช่วยในงานด้านส่งเสริมการขาย ใช้ในการจำแนกลูกค้า หรือใช้ในการบอกแนวโน้มการเลิกใช้สินค้าของลูกค้าชั้นดีที่กำลังจะจากไป
ดังจะเห็นได้ว่าห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Tesco Lotus, BigC, Carrefour, Central, The Mall ต่างก็ออกบัตรสมาชิก (Club Card, BigCard, i-Wish Card, …) ให้กับลูกค้าเพื่อนำไปใช้เป็นส่วนลดในการซื้อสินค้าหรือได้รับเงินคืนในภายหลัง ข้อมูลเหล่านี้เองที่จะช่วยให้บริษัทสามารถติดตามพฤติกรรมการจับจ่ายสินค้าของลูกค้าแต่ละคนได้ เพื่อทำความเข้าใจว่าลูกค้าแต่ละรายชอบหรือไม่ชอบสินค้าชนิดใด เดินทางมาซื้อสินค้าที่สาขาใด ณ ช่วงเวลาใด และสามารถนำเสนอโปรโมชันให้ตรงใจกับลูกค้ามากที่สุดนั่นเอง
วิวัฒนาการของการทำเหมืองข้อมูล
ปี 1960 Data Collection คือ การนำข้อมูลมาจัดเก็บอย่างเหมาะสมในอุปกรณ์ที่น่าเชื่อถือและป้องกันการสูญหายได้เป็นอย่างดี
          -     ปี 1980 Data Access คือ การนำข้อมูลที่จัดเก็บมาสร้างความสัมพันธ์ต่อกันในข้อมูลเพื่อประโยชน์ในการนำไปวิเคราะห์ และการตัดสินใจอย่างมีคุณภาพ
          -     ปี 1990 Data Warehouse & Decision Support คือ การรวบรวมข้อมูลมาจัดเก็บลงไปในฐานข้อมูลขนาดใหญ่โดยครอบคลุมทุกด้านขององค์กร เพื่อช่วยสนับสนุนการตัดสินใจ
          -     ปี 2000 Data Mining คือ การนำข้อมูลจากฐานข้อมูลมาวิเคราะห์และประมวลผล โดยการสร้างแบบจำลองและความสัมพันธ์ทางสถิติ
ประเภทที่ใช้ทำเหมืองข้อมูล
-    Relational Database เป็นฐานข้อมูลที่จัดเก็บอยู่ในรูปแบบของตาราง โดยในแต่ละตารางจะประกอบไปด้วยแถวและคอลัมน์ ความสัมพันธ์ของข้อมูลทั้งหมดสามารถแสดงได้โดย Entity Relationship Model
           -    Data Warehouses เป็นการเก็บรวบรวมข้อมูลจากหลายแหล่งมาเก็บไว้ในรูปแบบเดียวกันและรวบรวมไว้ในที่ๆ เดียวกัน
           -    Transactional Database ประกอบด้วยข้อมูลที่แต่ละทรานเเซกชันแทนด้วยเหตุการณ์ในขณะใดขณะหนึ่ง เช่น ใบเสร็จรับเงิน จะเก็บข้อมูลในรูปชื่อลูกค้าและรายการสินค้าที่ลูกค้ารายซื้อ
           -    Advanced Database เป็นฐานข้อมูลที่จัดเก็บในรูปแบบอื่นๆ เช่น  
- ฐานข้อมูลเชิงวัตถุ
- ข้อมูลเกี่ยวกับเวลา
- ฐานข้อมูลข้อความ (Text databases)  และฐานข้อมูลมัลติมีเดีย
- ฐานข้อมูลแบบเก่าในอดีตหรือข้อมูลที่มาจากต่างฐานข้อมูลกัน
- ข้อมูลจากแหล่ง  WWW
ความรู้ที่ได้จากการทำเหมืองข้อมูล
กฎความสัมพันธ์ (Association rule)
แสดงความสัมพันธ์ของเหตุการณ์หรือวัตถุ ที่เกิดขึ้นพร้อมกัน เช่น การวิเคราะห์ข้อมูลการขายสินค้า โดยเก็บข้อมูลจากระบบ ณ จุดขาย (POS) หรือร้านค้าออนไลน์ แล้วพิจารณาสินค้าที่ผู้ซื้อมักจะซื้อพร้อมกัน เช่น ถ้าพบว่าคนที่ซื้อเทปวิดีโอมักจะซื้อเทปกาวด้วย ร้านค้าก็อาจจะจัดร้านให้สินค้าสองอย่างอยู่ใกล้กัน เพื่อเพิ่มยอดขายได้


การจำแนกประเภทข้อมูล (Data classification)
                หา กฎเพื่อระบุประเภทของวัตถุจากคุณสมบัติของวัตถุ เช่น หาความสัมพันธ์ระหว่างผลการตรวจร่างกายต่าง ๆ กับการเกิดโรค โดยใช้ข้อมูลผู้ป่วยและการวินิจฉัยของแพทย์ที่เก็บไว้ เพื่อนำมาช่วยวินิจฉัยโรคของผู้ป่วย หรือการวิจัยทางการแพทย์ ในทางธุรกิจจะใช้เพื่อดูคุณสมบัติของผู้ที่จะก่อหนี้ดีหรือหนี้เสีย เพื่อประกอบการพิจารณาการอนุมัติเงินกู้
การแบ่งกลุ่มข้อมูล (Data clustering)
แบ่งข้อมูลที่มีลักษณะคล้ายกันออกเป็นกลุ่ม แบ่งกลุ่มผู้ป่วยที่เป็นโรคเดียวกันตามลักษณะอาการ เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ในการวิเคราะห์หาสาเหตุของโรค โดยพิจารณาจากผู้ป่วยที่มีอาการคล้ายคลึงกัน
การสร้างมโนภาพ (Visualization)
สร้างภาพคอมพิวเตอร์กราฟิกที่สามารถนำเสนอข้อมูลมากมายอย่างครบถ้วนแทนการใช้ข้อความนำเสนอข้อมูลที่มากมาย เราอาจพบข้อมูลที่ซ้อนเร้นเมื่อดูข้อมูลชุดนั้นด้วยจินตทัศน์
ขั้นตอนการทำเหมืองข้อมูล
           -  Data Cleaning เป็นขั้นตอนสำหรับการคัดข้อมูลที่ไม่เกี่ยวข้องออกไป
           -    Data Integration เป็นขั้นตอนการรวมข้อมูลที่มีหลายแหล่งให้เป็นข้อมูลชุดเดียวกัน
           -    Data Selection เป็นขั้นตอนการดึงข้อมูลสำหรับการวิเคราะห์จากแหล่งที่บันทึกไว้
           -    Data Transformation เป็นขั้นตอนการแปลงข้อมูลให้เหมาะสมสำหรับการใช้งาน
           -    Data Mining เป็นขั้นตอนการค้นหารูปแบบที่เป็นประโยชน์จากข้อมูลที่มีอยู่
           -    Pattern Evaluation เป็นขั้นตอนการประเมินรูปแบบที่ได้จากการทำเหมืองข้อมูล
           -    Knowledge Representation เป็นขั้นตอนการนำเสนอความรู้ที่ค้นพบ โดยใช้เทคนิคในการนำเสนอเพื่อให้เข้าใจ
สถาปัตยกรรมของระบบการทำเหมืองข้อมูล
Database, Data Warehouse, World Wide Web และ Other Info Repositories เป็นแหล่งข้อมูลสำหรับการทำเหมืองข้อมูล
           -    Database หรือ Data Warehouse Server ทำหน้าที่นำเข้าข้อมูลตามคำขอของผู้ใช้
           -    Knowledge Base ได้แก่ ความรู้เฉพาะด้านในงานที่ทำจะเป็นประโยชน์ต่อการสืบค้น หรือประเมินความน่าสนใจของรูปแบบผลลัพธ์ที่ได้
           -    Data Mining Engine เป็นส่วนประกอบหลักประกอบด้วยโมดูลที่รับผิดชอบงานทำเหมืองข้อมูลประเภทต่างๆ ได้แก่ การหากฎความสัมพันธ์ การจำแนกประเภท การจัดกลุ่ม
           -    Pattern Evaluation Module ทำงานร่วมกับ Data Mining Engine โดยใช้มาตรวัดความน่าสนใจในการกลั่นกรองรูปแบบผลลัทธ์ที่ได้ เพื่อให้การค้นหามุ่งเน้นเฉพาะรูปแบบที่น่าสนใจ
           -    Graphic User Interface ส่วนติดต่อประสานระหว่างผู้ใช้กับระบบการทำเหมืองข้อมูล ช่วยให้ผู้ใช้สามารถระบุงานทำเหมืองข้อมูลที่ต้องการทำ ดูข้อมูลหรือโครงสร้างการจัดเก็บข้อมูล ประเมินผลลัพธ์ที่ได้
งานของData mining
การจัดหมวดหมู่
การจัดหมวดหมู่ถือว่าเป็นงานธรรมดาทั่วไปของ Data Mining เพราะการทำความเข้าใจและการติดต่อสื่อสารต่างๆ ก็เกี่ยวข้องกับการแบ่งเป็นหมวดหมู่การจัดแยกประเภทและการแบ่งแยกชนิดโดยการจัดหมวดหมู่ประกอบด้วยการสำรวจจุดเด่นของวัตถุที่ปรากฏออกมา และทำการกำหนด จุดเด่นนั้นๆ
การประเมินค่า 
การประเมินค่าทางธุรกิจอย่างต่อเนื่องจะก่อให้เกิดผลลัพธ์ที่มีประโยชน์กับธุรกิจ คือการป้อนข้อมูลที่เรามีอยู่เข้าไป เพื่อใช้ในการประเมินสิ่งต่างๆ ที่จะก่อให้เกิดประโยชน์ หรือสำหรับตัวแปรที่เราไม่รู้ค่า แน่นอนเช่น รายได้จากการค่า จุดสูงสุดทางธุรกิจ หรือดุลยภาพของบัตรเครดิต
การพยากรณ์
จะเหมือนกับจัดหมวดหมู่ และ ประเมินค่า ต่างกันตรงที่การบันทึกถูกแยกจัดลำดับในการทำนายค่าในอนาคต    และนำข้อมูลในอดีตมาสร้างเป็นแบบจำลองใช้ทำนายสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เช่น  การทำนายว่าลูกค้ากลุ่มใด ที่องค์กรจะสูญเสียไปในอีก 6 เดือนข้างหน้า  หรือ  การทำนายยอดซื้อของลูกค้าจะเป็นเท่าใด  ถ้าบริษัทลดราคาสินค้าลง 10%
 การจัดกลุ่มโดยอาศัยความใกล้ชิดกัน หรือการวิเคราะห์ของตลาด  
คือการตัดสินใจรวมสิ่งที่สามารถไปด้วยกันเข้าไว้ในกลุ่มเดียวกัน เช่น การตัดสินใจว่าสิ่งใดบ้างที่จะไปอยู่ด้วยกันอย่างสม่ำเสมอในรถเข็นในซุปเปอร์มาร์เกต

 การรวมตัว 
คืองานที่ทำการรวมส่วนต่างๆ ในแต่ละส่วนที่ต่างชนิดกันให้อยู่รวมกันเป็นกลุ่มย่อย หรือคลัสเตอร์ (Clusters) โดยในแต่ละคลัสเตอร์อาจจะประกอบด้วยส่วนต่างๆที่ต่างชนิดกัน ซึ่งความแตกต่างของการรวมตัวจากการจัดหมวดหมู่คือ การรวมตัวจะไม่พึ่งพาอาศัยการกำหนดหมวดหมู่ล่วงหน้า และไม่ใช้ตัวอย่าง ข้อมูลจะรวมตัวกันบนพื้นฐานของความคล้ายในตัวเอง
การบรรยาย 
ในบางครั้งวัตถุประสงค์ของData Mining คือต้องการอธิบายความสับสนของฐานข้อมูลในทางที่จะเพิ่มความเข้าใจในส่วนของประชากร ผลิตภัณฑ์ หรือขบวนการให้มากขึ้น
เทคนิคData Miningส่วนใหญ่ต้องการเทรนนิ่งข้อมูลจำนวนมากที่ประกอบด้วยหลายๆ ตัวอย่างเพื่อจะสร้างกฎที่ใช้ในการจัดหมวดหมู่ กฎของความสัมพันธ์ คลัสเตอร์ การพยากรณ์ ดังนั้นชุดของข้อมูลขนาดเล็กจะนำไปสู่ความไม่น่าไว้วางใจของผลสรุปทีได้ ไม่มีเทคนิคใดเลยที่จะสามารถแก้ปัญหาของData Miningได้ทุกปัญหา ดังนั้นความหลากหลายของเทคนิคจึงเป็นสิ่งที่จำเป็นในการไปสู่วิธีการแก้ปัญหาของData Miningได้ดีที่สุด
1. นิวรอนเน็ตเวิร์ก
นิวรอนเน็ตเวิร์ก คือระบบที่มีการประมวลผลข้อมูลซึ่งรวมคุณสมบัติของไบโอลอจิกคอล นิวรอนเน็ตเวิร์ก ถูกพัฒนาขึ้นโดยโมเดลทางคณิตศาสตร์ของกระบวนการเรียนรู้ของมนุษย์ และจะเรียนรู้จากชุดข้อมูลของชุดความรู้ (Training Set)
นิวรอนเน็ตเวิร์ก ประกอบด้วยหน่วยความจำจำนวนมากเรียกว่า นิวรอน,เซลหรือโหนด แต่ละนิวรอนต่อกันโดยคอนเน็กชั้นลิ่ง (Connection Link) ที่ค่าน้ำหนัก (Weight) ของมันอยู่ โดยค่าน้ำหนักจะแสดงรายละเอียดที่เน็ตเวิร์กใช้ในการแก้ปัญหา โดยนิวรอนเนตเวิร์กถูกใช้ในการแก้ปัญหาอย่างกว้างขวาง เช่น การเก็บและการเรียกข้อมูล, การแยกประเภทของข้อมูล, การเปลี่ยนจากรูปแบบของอินพุทให้อยู่ในรูปแบบของเอาท์พุท,ความสามารถในการตรวจสอบรูปแบบของข้อมูลที่คล้ายคลึงกับความคิดมนุษย์ เป็นต้น ถึงแม้ว่านิวรอนเน็ตเวิร์ก สามารถนำไปประยุกต์ใช้กับงานหลาย ๆ ชนิดได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่นิวรอนเน็ตเวิร์ก ก็ยังมีข้อเสียอยู่บ้าง ดังนี้
1.1          นิวรอนเน็ตเวิร์กเป็นวิธีที่ยากต่อการทำความเข้าใจในโมเดลที่ถูกผลิตออกมา
1.2          นิวรอนเน็ตเวิร์กมีคุณสมบัติที่ไวต่อรูปแบบของอินพุท ถ้าเราแทนข้อมูลด้วยรูปแบบที่แตกต่างกันก็จะสามารถผลิตผลลัพธ์ที่แตกต่างกันออกมา ดังนั้นการกำหนดค่าเริ่มต้นให้กับข้อมูลจึงเป็นส่วนที่มีความสำคัญส่วนหนึ่ง

2. จีเนติก อัลกอริทึ่ม (Genetic Algorithm : GA)
ในยีนส์ของมนุษย์นั้นจะมีการถ่ายทอดพันธุกรรมไปยังลูกหลานได้ ซึ่ง Genetic Algorithms จะอาศัยหลักการนี้ ข้อมูลชุดหนึ่งซึ่งมี Rule ของตัวมันเอง หากมมีการนำข้อมูลทั้งสองชุดมารวมกันเป็นรูปแบบนี้ ก็จะมีการสร้างกฎขึ้นมาโดยวิเคราะห์จากกฎที่มีอยู่ของทั้ง 2 Pattern
การประยุกต์ใช้ Data mining
กลุ่มเทเลคอมและเน็ตเวิร์ค โปรโมชันมือถือ หรือ internet ระบบตรวจจับการบุกรุกเครือข่าย
bullet2กลุ่มประกันชีวิต แผนประกันชีวิตแบบต่างๆ
bullet2กลุ่มโรงพยาบาล การออกแพ็คเก็ตตรวจสุขภาพ
bullet2กลุ่มการท่องเที่ยวและโรงแรม – Recommendation system สำหรับ web marketing
Bullet2กลุ่มธุรกิจการเงิน ธนาคาร ระบบสนับสนุนการตัดสินใจในการให้สินเชื่อ ระบบตรวจจับการทุจริตทางการเงิน
bullet2กลุ่มวิทยาศาสตร์ชีวภาพ งานวิจัยทางด้าน Bioinformatics